เป็นคำที่บอกว่าเราเป็นอย่างที่เรากิน ถ้าต้องการห่างไกลจากมะเร็ง อาหารเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง อาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ คือ พวกของปิ้ง ย่าง ทอด หรืออาหารที่ผสมสารก่อมะเร็งทั้งหลาย เช่น ลูกชิ้นเด้งได้ หมูยอขาวอวบ กุนเชียงแดงสด หรือแม้กระทั่งอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันมากๆ เพราะมีรายงานการวิจัยพบว่าอาหารที่ไหม้ หรือน้ำมันที่ค้างนานๆ รวมถึงพวกสารเคมีในอาหารไม่ว่าจะเป็นพวกบอแร็กซ์ ฟอร์มาลีนที่แม่ค้าหัวใสใช้กับพวกอาหารให้อยู่ได้นานแสนนาน พวกนี้เป็นสารก่อมะเร็งแทบทั้งสิ้น เมื่อเรากินเข้าไป พวกนี้จะไปสะสมในตัวเรา แล้ววันหนึ่งของพวกนี้ก็ประท้วงบอกเราด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก ไม่สบาย และในที่สุดก็มะเร็ง
หัวข้อนี้ต้องบอกว่าช่วยไม่ได้สำหรับคนเมืองโดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ ที่เต็มไปด้วยมลภาวะและสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นท่อไอเสีย ควันดำ ควันบุหรี่ หรือแม้กระทั่งอากาศเสียจากโรงงาน นอกจากนี้แสงแดดที่แรงจัดที่ล้อมรอบเราอยู่ก็เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนัง เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีก็หาวิธีป้องกันมะเร็งแต่เนิ่นๆ เช่น เวลาจะออกข้างนอก หรือต้องอยู่บนท้องถนนนานๆ ก็หาที่ปิดปากปิดจมูกเพื่อช่วยกรองอากาศให้เรา วิธีนี้ถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ดีกว่าไม่ป้องกันซะเลย ส่วนเรื่องแดดจัดก็ใช้ครีมกันแดดช่วย สำหรับบ้านเราควรใช้ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป เมื่อต้องอยู่กลางแจ้งและก็หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 11:00-16.00 น. เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่รังสียูวี มีความเข้มสูงสุด
มีผลการวิจัยพบว่าการออกกำลังครั้งละ 30 นาที 5-6 วันต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม การออกกำลังกายในที่นี้ไม่จำเป็นต้องหนักแบบนักกีฬา แค่เดินหรือวิ่งเหยาะๆ ก็เพียงพอ การออกกำลังนอกจากจะห่างไกลมะเร็งแล้ว ยังมีรายงานว่าจะมีฮอร์โมนที่หลั่งออกมาภายหลังการออกกำลัง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เราสดชื่น และมีความสุขอีกด้วย
มีรายงานการวิจัยพบว่ามะเร็งปากมดลูกมีความสัมพันธ์กับสุขอนามัยโดยเฉพาะ คนที่มีสุขอนามัยไม่ดีจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ HPV (Human Papillomavirus) และที่สำคัญเชื้อนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ทวารหนักและอวัยวะเพศได้อีกด้วย นอกจากสุขอนามัยที่ไม่ดีจะนำมาซึ่งโรคมะเร็งแล้วโรคอื่นๆ ที่ตามมาพร้อมกับสุขอนามัยที่ไม่ดีก็มี เช่น โรคทางเดินอาหาร โรคผิวหนังบางชนิด หรือโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
อริยสัจ เป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นรากฐานของคำสอนทั้งมวลของพระพุทธองค์ว่าด้วยความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ประกอบด้วย
1. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
2. สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
3. นิโรจ คือ ความดับทุกข์ หมายถึง หลักการว่าด้วยการดับทุกข์
4. มรรค คือ ทางปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ หมายถึง รายละเอียดของาการปฏิบัติ ซึ่งก็คือ มรรคมีองค์ 8 นั่นเอง หัวข้อนี้น่าจะสำคัญมากที่สุดสำหรับเราที่ได้เกิดมา และถ้าเรายึดมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ ชีวิตเราก็จะมีความสุข ไม่มีความเตรียด เพราะความเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ โดยเฉพาะ มะเร็งสำไส้ และมะเร็งกระเพาะอาหาร
อาชีพก็มีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดของมะเร็งด้วย เช่นกัน โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องเผชิญกับสารเคมีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกยาฆ่าแมลง น้ำยาทำความสะอาด รวมถึงพวกน้ำมันเบนซิน เมื่อเกี่ยวข้องกับการทำงานจะจำกัดหรือหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายเหล่านี้คงค่อนข้างยาก ดังนั้น บุคคลหรืออาชีพที่ต้องสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับสารเหล่านี้เป็นประจำ ควรหาทางป้องกันโดยอาจจะใช้ ผ้าปิดปากและจมูก หรือการสวมถุงมือเมื่อต้องสัมผัสสารพวกนี้ และเมื่อเสร็จภารกิจเรียบร้อยแล้วก็ควรอาบน้ำหรือล้างมือให้สะอาด นอกจากอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีต่างๆ ที่มีโอกาสเสี่ยงกับการเกิดมะเร็งแล้ว ยังมีการวิจัยพบว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับก็มีผลต่อการเกิดมะเร็งเช่นกัน โดยพบว่าสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สมองผลิตในระหว่างการนอนหลับมีคุณสมบัติต่อสู้กับมะเร็ง แต่ฮอร์โมนชนิดนี้จะสามารถป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อการนอนนั้นเป็นการนอนหลับที่สนิทและต่อเนื่องตลอดคืน ดังนั้นอาชีพของคนกลางคืน หรืออาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนนอนอย่างต่อเนื่องก็อยู่ในกลุ่มต้องคอยระวังเช่นกัน
นอกจากจะต้องเสียเงินสำหรับการซื้อหาแล้วผู้ที่ดื่มยังต้องเสียสุขภาพตามมาด้วย มีรายงานว่าการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปจะมีผลร้ายต่อตับมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดื่มแอลกอฮอล์พร้อมไปกับการสูบบุหรี่จะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งช่องปากและลำคอรวมถึงยังมีผลเกี่ยวพันกับมะเร็งอื่นๆ ด้วย เช่น มะเร็งปอด เป็นต้น ถึงแม้ว่าบางกรณีแพทย์จะแนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจก็ตามแต่ก็ต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะคือประมาณ 1 แก้วต่อวันจะเป็นการดีที่สุด
"A sound mind in a sound body’’ ประโยคดังกล่าวว่าไว้ถึง สภาพจิตใจที่ดีจะมีอยู่ในร่างกายที่ดี ดังนั้น ถ้าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงสดห่างไกลโรคโดยเฉพาะมะเร็งก็ต้องจำสุภาษิตดังกล่าวไว้ และปฏิบัติตามโดยเฉพาะอารมณ์ที่ดีนอกจากจะสดใสสำหรับตนเองแล้วยังสดใสเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้างอีกด้วย
การเลือกรับประทานอาหารต่าง ๆ สำหรับผู้เป็นมะเร็งถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมไปถึงการเลือกสมุนไพรหรืออาหารเสริม และในทางแพทย์แผนจีนมีสมุนไพรหลากหลายตัวที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี เช่น หนี่เจินจื่อ และ ผู่กงอิง และในผลิตภัณฑ์ Extract Plus มีส่วนประกอบของสมุนไพรเหล่านั้นรวมอยู่ด้วย จะเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และเมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็เปรียบเสมือนเกราะป้องกันของคุณแข็งแรงขึ้น
